ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผยว่าตนเองและคณะรัฐมนตรีเตรียมเข้ารับการฉีด วัคซีนโควิด ในวันที่ 12 มี.ค. พร้อมยืนยันไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน วันนี้ (9 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าตนเอง และคณะรัฐมนตรี จะเข้ารับการฉีด วัคซีนโควิด ของแอสตราเซเนกา ในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. นี้ เพราะต้องพบปะประชาชนจำนวนมาก
ปัจจุบัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข,
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มแรกได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วจำนวน 29,900 ราย – มีรายงานผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีน จำนวน 2,380 ราย (คิดเป็นร้อยละ 7.96 ของผู้รับวัคซีนทั้งหมด)
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน เพราะเป็นการเพิ่มปริมาณและทางเลือกให้กับประชาชน แต่ทั้งนี้ก็ต้องมาขออนุญาต อย. ให้เรียบร้อยก่อน
ตำรวจนครบาลสั่งดำเนินคดี ผู้ชุมนุมหน้าศาลอาญา แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ตามฐานความผิด โทษหนักพิจารณาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานด้วยหรือไม่ ม็อบ6มีนา – พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ ผู้ชุมนุมศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มีนาคมว่า สามารถแบ่งการดำเนินคดีเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มของนายโต้โต้ กับพวก 18 คน ซึ่งมีความผิดฐาน สมคบตั้งแต่ 5 คน เพื่อเตรียมกระทำผิดกฎหมายอาญา โดยมีการจับกุมจากการกระทำผิดซึ่งหน้าไปแล้ว
กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับ และหลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน รวม 24 คน จะมีความผิดเพิ่มเติม ฐานหลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งมีการมาแสดงตัวต่อตำรวจนครบาลพหลโยธินแล้ว ซึ่งจะมีการพิสูจน์ทราบว่า มีการหลบหนีจริงหรือไม่ หากพบเป็นกลุ่มที่หลบหนีจริง จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง
กลุ่มที่ 3 กลุ่มผู้ต้องหา ที่ทุบทำลายรถของทางราชการ และร่วมกันชิงตัวผู้ต้องหา ทำร้ายเจ้าพนักงาน และชิงทรัพย์ จะมีความผิดฐาน ร่วมกันช่วยเหลือให้ผู้ต้องหา และหากพบผู้ใด ทำร้ายเจ้าพนักงาน ก็จะมีความผิดฐาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเพิ่มเติมด้วย
กลุ่มที่ 4 กลุ่มผู้ทุบทำลายแนวรั้วของศาลอาญา นำสิ่งต่าง ๆ มาเผา และบุกรุกจะมีความผิดฐาน บุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และบางส่วนผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
กลุ่มที่ 5 กลุ่มผู้ชักชวนและร่วมชุมนุม จะเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ
กลุ่มที่ 6 กลุ่มที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถราชการ จะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดฐาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานด้วยหรือไม่
‘สมศักดิ์’ รับมีความคิดแยก เรือนจำ นักโทษทางการเมือง
สมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม ออกมายอมรับว่ามีความคิด แยก เรือนจำ นักโทษทางการเมือง เพื่อลดความแออัด ขณะนี้ยังไม่มีสถานที่ชัดเจน นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระทรวงยุติธรรมมีแนวความคิดจะขยายเรือนจำเป็นการเฉพาะสำหรับผู้ต้องขังคดีการเมืองว่า เป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลอยู่ เดี๋ยวขอดูในรายละเอียดก่อน ยังไม่มีคำตอบเรื่องนี้ ยังไม่มีคำตอบที่เบ็ดเสร็จ ซึ่งบางทีพื้นที่เดิมมีความแออัดจึงต้องการให้ขยายออกไปอยู่กันสบายๆปลอดโปร่ง
อีกทั้งในช่วงนี้มีม็อบไปอยู่ที่หน้าเรือนจำก็จะได้มีที่มีทางไม่แออัด ส่วนเรื่องสถานที่ยังไม่แน่นอนว่าจะย้ายไปที่ไหน แต่ขอให้มีความสะดวก ไม่ต้องการให้ประชาชนมาแออัด เพราะไหนจะม็อบ ไหนจะคนเยี่ยม จะได้ไม่แออัดกันและจะได้มีที่ทางโล่งๆให้สำหรับคนไปอยู่ เรื่องนี้ต้องมองหลายมุมแต่ได้ประโยชน์กันทุกคน
กลุ่ม แนวร่วมธรรศาสตร์และการชุมนุมได้ออกมาเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแต่งชุดดำ เพื่อไว้อาลัยแด่ความยุติธรรมใน ม็อบ9มีนา ม็อบวันนี้ – เพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ออกมานัดหมายมวลชนร่วมใส่ชุดดำและชุมนุมที่หน้าศาลอาญารัชดา เวลา 16.00 พร้อมวางพวงหรีดและผูกโบดำเพื่อไว้อาลัยให้กับความยุติธรรม
โดยทางเพจระบุว่า “เพื่อนเราถูกใบสั่งขัง! ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง ขอเชิญพี่น้องมวลชนร่วมไว้อาลัยแด่ความยุติธรรม ร่วมกันใส่เสื้อดำ วางพวงหรีด และผูกโบว์ดำ เพื่อไว้อาลัยแด่ความยุติธรรมที่หายไปจากประเทศ”
การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ อัยการสั่งฟ้อง แกนนำม็อบราษฎร ให้มีความผิด ม.112 และ ม.116 จากการชุมนุมประท้วงที่ มธ.ท่าพระจันทร์และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.
โดยในกลุ่มแกนนำที่ถูกสั่งฟ้องมี รุ้ง หรือ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ไผ่ ดาวดิน หรือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ ไมค์ นายภาณุพงศ์ จาดนอก รวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ทางอัยการยังได้สั่งค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 18 คน และนำตัวส่งศาลต่อไป
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร